ลงประกาศฟรี
ค้นหาประกาศ

ผ่า 10 เทรนด์อีคอมเมิร์ซปี 65 คริปโทคอมเมิร์ซ-ไลฟ์ขายสินค้า แรง

ปี 2564 หากแม้โลกยังพบเจอกับการแพระระบาดของโควิด รวมทั้งยังคงมีทิศทางที่ไม่น่าไว้วางใจมากขึ้น เมื่อศึกษาและทำการค้นพบโควิดสายพันธุ์ใหม่อย่าง “โอมิครอน” แม้ปีนี้จำเป็นต้องจัดว่ามีอุตสาหกรรมหลายกรุ๊ปที่ได้รับผลบุญจากวิกฤตการณ์โควิด หนึ่งในนั้นเป็นอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ

 

ผ่า 10 เทรนด์อีคอมเมิร์ซปี 65 คริปโทคอมเมิร์ซ-ไลฟ์ขายสินค้า แรง

 

 

“ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ” ผู้เชี่ยวชาญใน อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ ของไทย ผู้จัดตั้งและก็ซีอีโอตลาดดอทคอม เปิดคาดหมาย 10 เทรนด์อีคอมเมิร์ซในปี 2565 ไม่ว่าจะเกิดเรื่อง “คริปโทคอมเมิร์ซ” “ซูเปอร์แอพ” รวมถึงการเจริญเติบโตของ “แนวทาง” การสำหรับเพื่อการทำอีคอมเมิร์ซ โดยยิ่งไปกว่านั้นในเรื่องเกี่ยวกับการ “ไลฟ์” ที่จะเปลี่ยนเป็นเทรนด์ใหญ่ ระหว่างที่ กรุ๊ปJSL อันมีJD Central , Shopee แล้วก็ Lazada ที่ปีต่อไปจะเริ่มได้กำไรได้แล้ว

สำหรับ 10 เทรนด์อีคอมเมิร์ซที่จะเกิดขึ้นในปี 2565 มีดังนี้

1.อีคอมเมิร์ซจะแปลงเป็นหนทางหลักของธุรกิจปี 2564 บางทีก็อาจจะยังไม่ค่อยชัดเยอะแค่ไหน แม้กระนั้นปี 2565 จะชัดมากมายว่าอีคอมเมิร์ซจะเปลี่ยนเป็นวิถีทางหลักในด้านของบางธุรกิจยอดจำหน่ายต่างๆบางกรุ๊ปอีคอมเมิร์ซอาจจะไม่เมาก แม้กระนั้นเมื่อมองอัตราการเจริญเติบโตผมบอกได้เลยว่าน่าจะโตขึ้นอีกมากมายก่ายกองอย่างยิ่งจริงๆในเชิงของแนวทางการขาย

2.JSL ปีต่อไปจะเริ่มได้กำไรได้แล้ว กรุ๊ป JSL มี เจดีเซ็นทรัล (JD Central), ช้อปปี้ (Shopee) แล้วก็ลาซาด้า (Lazada) จะพยายามไปสู่โหมดวิธีการทำผลกำไร อย่างเมื่อกลางปี 2564 ลาซาด้า ส่งงบประมาณกลางปีต่อกระทรวงการซื้อขาย ในตอนนี้รายได้ 1.4 หมื่นกว่าล้านบาท ผลกำไรมากถึง 226 ล้านได้ ที่ตรงนี้จะเห็นได้ชัดว่าการสู้รบยังคงมีอยู่ แม้กระนั้นบางเจ้าเริ่มหยุดการสาดเงิน เริ่มมาจุดโฟกัสที่วิธีการทำให้กำเนิดรายได้ของธุรกิจมากเพิ่มขึ้น

“ผลกำไรของพวกมาร์เก็ตเพลสนั้น lazada กับ shopee จะได้มาแตกต่างกัน shopee จะมาจากค่าคอมมิชชั่นจากวิธีขายทุกร้านค้าที่ไปเปิดจะต้องเสียค่าคอมมิชชั่นแล้วก็การซื้อโปรโมทด้านในเว็บ แต่ว่าลาซาด้าจะเอาโมเดลจากจีนมาซึ่งมี 2 โมเดลหมายถึงแบบแรกแบบ Taobao ก็คือแบบลาซาด้ามาร์เก็ตเพลสทั่วๆไปที่ตรงนี้รายได้มาจากประชาสัมพันธ์ ผู้ประกอบการรายเล็กที่ไปขายสินค้าจะไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น แต่ว่าถ้าอยากยอดจำหน่ายเพิ่มบางทีอาจจำต้องไปซื้อประชาสัมพันธ์เพิ่ม”

ส่วนอีกโมเดลหนึ่งเป็น LazMall นี้เปิดให้เฉพาะผู้ครอบครองแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ซึ่งต่องจ่ายค่าคอมมิชชั่น 2-10% ขึ้นกับชนิดหมู่ผลิตภัณฑ์ เมื่อเทียบก็ยังนับว่าต่ำการนำไปขายในวิถีทางขายปลีกธรรมดาที่บางทีอาจอยู่ที่ 30% เลย นอกจากนั้นยังค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าพื้นที่ ค่าบุคลากรที่ไปยืนขาย อื่นๆอีกมากมาย

ภาวุธ มั่นใจว่า โมเดลรูปแบบใหม่ที่เป็นออนไลน์จะก่อให้ผู้ครอบครองผลิตภัณฑ์ต่างๆเริ่มพึงพอใจเพราะเหตุว่าค่ามาร์จิ้นหรือคอมมิชชั่นที่จะต้องจ่ายให้กับผู้ครอบครองวิถีทางวิธีขายค่อนข้างจะน้อยกว่า ในตอน 1-2 ปีที่ผ่านมี บรรดามาร์เก็ตเพลสหรือ JSL ก็เลยมุ่งไปที่แบรนด์ผลิตภัณฑ์หรือโรงงานต่างๆเนื่องจากกลุ่มนี้เมื่อลงประชาสัมพันธ์ออนไลน์จะจ่ายน้อยกว่าแล้วก็มองเห็นยอดจำหน่ายเลยในทันที ซึ่งนี้ก็เลยทำให้รายได้ของผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสโตขึ้น เนื่องจากว่าแบรนด์ต่างๆเปลี่ยนเป้าหมายเบนจำนวนเงินจากที่ไปจ่ายตามสื่อต่างๆมาลงบนออนไลน์มากขึ้น แปลงเป็นว่าผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสเริ่มมีรายได้เยอะขึ้นและก็มองเห็นแววว่าจะมีผลกำไรแล้ว

3.การทำศึกการเป็นซูเปอร์แอพ (SuperApp) แอพที่จำต้องเปิดวันแล้ววันเล่า ambxbet เป็นแอพพลิเคชั่นที่มีทุกบริการอยู่ด้านในรายที่มีความใกล้เคียงเป็นซูเปอร์แอพมากมายหมายถึงมึงร็บ สั่งอาหารได้ ส่งสินค้าได้ เดี๋ยวนี้สั่งสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตก็ได้ ยังมีวอลเล็ทมีให้กู้ยืม อื่นๆอีกมากมาย หรือ “ทรูมันนี่” เริ่มเป็นซูเปอร์แอพแล้ว ปัจจุบันนี้มีกระเป๋าเงินชำระเงินได้ ซื้อกองทุน จ่ายค่าน้ำและค่าไฟฟ้า อื่นๆอีกมากมาย ทำเป็นหมดทุกๆอย่าง

“อีกรายที่น่าขนลุกมากมายเป็นช้อปปี้ ที่เดี๋ยวนี้มีทั้งหมดทุกอย่างรวมทั้งรุกหนักมากมาย แล้วก็จะไปต่อหมายถึงShopeeFood, Shopee Travel นี่เป็นแนวโน้มของวิธีการทำอีคอมเมิร์ซในปีถัดไป ทุกรายอุตสาหะจะกระโจนเข้ามาเป็นซูเปอร์แอพ ทุกรายขายสินค้าอยู่สุดแท้แต่เพียรพยายามจะขายสินค้าให้มีความมากมายหลายมากเพิ่มขึ้น อาศัยฐานที่ตนเองมี ทำให้ลูกค้าไม่ต้องออกไปไหนอยู่แม้กระนั้นในแพลตฟอร์มตนเองแค่นั้น เหมือนกันกับ “แฟลช เอ็กซ์เพรส เว้นแต่ทำขนส่ง ยังมีแผนในการจะไปทำ Flash Pay, Flash Warehouse มานะกระโจนไปทำทุกสิ่งเช่นเดียวกัน”

4. ไลฟ์คอมเมิร์ซ+โออีเอ็ม (OEM) การค้าขายออนไลน์ผ่านการถ่ายทอดสดปีต่อไป จะเป็นการขายทางออนไลน์แบบซีเรียสขึ้น เรียกว่า เป็นโปรเฟสชั่นนัล ไลฟ์ คอมเมิร์ซ และก็ ขายได้ในระดับหลายร้อยล้าน ได้แก่ พิมปรี่พาย

“live commerce + OEMหมายถึงคราวก่อนพวกเราบางครั้งก็อาจจะเอาของผู้อื่นมาขาย แต่ว่าปัจจุบันนี้ไม่ต้อง เมื่อไลฟ์หลายครั้ง มีฐานลูกค้ามีคนติดตามแล้ว ก็หันว่าจ้างบริษัทอื่นผลิตผลิตภัณฑ์เองเลย จะเริ่มมองเห็นคนจำนวนไม่น้อยเริ่มทำแบรนด์ของตนเอง เนื่องจากว่าบางทีอาจได้กำไรมากยิ่งกว่าเดิม 100-200%”

5.คอมบายน์ แอนด์ ออโตเมโท อีคอมเมิร์ซ (Combine and automated e-commerce) ถัดไปทุกวิถีทางวิธีขายจะถูกขัดเกลาเข้าด้วยกัน อยู่ในวิถีทางเดียวกัน ยอดจำหน่ายจากออนไลน์ ยอดจำหน่ายจากโทรทัศน์ รวมทั้งจากทุกสื่อทุกวิถีทาง จะสามารถดึงข้อมูลมารวมไว้ที่เดียว เพื่อมาพินิจพิจารณาว่าวิถีทางไหนมีคุณภาพสูงที่สุด หนทางไหนเวิร์คสุดเมื่อรวมข้อมูลทั้งหมดทั้งปวงมาอยู่ในที่เดียวกันได้ สิ่งที่ตามมาเป็น automated เป็นสามารถต่ออัตโนมัติ เอาพวกแชทบอทเข้ามาช่วยได้ ระบบออกใบเสร็จรับเงิน การเก็บข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่าง อื่นๆอีกมากมาย การค้าขายในตอนนี้จะรวดเร็วทันใจขึ้นรวมทั้งจะอัตโนมัติเยอะขึ้นอย่างยิ่งจริงๆ

“ปัจจุบันผมปรับปรุง TARAD U-Commerce 2.0 คือระบบที่สามารถเก็บรวบรวมยอดจำหน่ายได้ทุกวิถีทางไว้ที่เดียว แล้วก็การส่งสินค้าจากหลายๆขนส่งที่ถูกกว่มธรรมดาผ่าน Shippop และก็มีระบบระเบียบจ่ายเงินทุกวิถีทางของ PaySolutions รวมอยู่ที่เดียว”

6. รีเทล ออโตเมชั่น การมาของเครื่องขายสินค้าอัจฉริยะตลอด 1 วันไม่จำเป็นที่จะต้องใช้คนการค้าขายปลีกแบบอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้คน โดยปีถัดไปจะเริ่มมองเห็นพวกเวนดิ้ง แมชชีน พวกตู้ขายของอัตโนมัติต่างๆซึ่งสามารถขายของได้ 1 วันเยอะขึ้น

“จุดแข็งก็คือไม่เสียค่าใช้จ่ายเดือน ไม่ต้องมีโบนัส สามารถขายได้ 1 วัน เป็นเครื่องที่รอคิดเงินสิ่งเดียว มีระบบระเบียบดูแลความปลอดภัยอย่างยอดเยี่ยม คนไหนกันที่ทำธุรกิจขายสินค้าอยู่แล้วอยากที่จะให้ลองพินิจพิจารณามองว่าพวกเราจะสามารถใช้ตู้เหล่านี้ขายสินค้าได้อย่างไรบ้าง”

7.การค้าขายออนไลน์ในปีต่อไปจะดุมากขึ้น aggressive มากเพิ่มขึ้น งบประมาณโปรโมทที่ใช้เหมือนเดิม ยอดจำหน่ายจะได้ลดน้อยลง เมื่อทุกคนกระโจนเข้ามาสู่อีคอมเมิร์ซมากขึ้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นเขาจำต้องใช้งบประมาณสำหรับในการกระตุ้นต่างๆเมื่อเริ่มใช้งบประมาณมากยิ่งขึ้น งบประมาณเริ่มไม่ค่อยสำเร็จ การแข่งขันชิงชัยเยอะขึ้น ฉะนั้น ตลาดการลงโปรโมท ตลาดการประลองขายสินค้าออนไลน์จะดุดันมากยิ่งกว่าปีที่ผ่านๆมา

8.คริปโทคอมเมิร์ซ เป็นคำใหม่ ที่ผมขอใช้คำว่า “Crypto Commerce”หมายถึงใช้สกุลเงินคริปโตมาร่วมกับการค้าขายอย่างเอาจริงเอาจัง ตอน 1-2 ปีที่ล่วงเลยไป จะมีความเห็นว่ามีการใช้เหรียญคริปโตมาใช้ แต่ว่าคือการใช้ในด้านการลงทุน เก็งกำไร ปีถัดไปจะเริ่มพบว่ามีการเอาเงินคริปโตมาจับจ่ายซื้อของ ซึ่งปีนี้เริ่มมีให้มองเห็นแล้ว ตัวอย่างเช่น ใช้คริปโตซื้อรถยนต์ได้

9. D2C จะเริ่มคะนองมากยิ่งกว่าเดิม (Direct to Consumer) เพราะเหตุว่าทุกแบรนด์ผลิตภัณฑ์รวมทั้งโรงงานต่างๆต่างกระโดดเข้ามาขายออนไลน์เองกันหมด เริ่มหันมาขายในมาร์เก็ตเพลส ขายผ่านเครือข่ายสังคม เริ่มสร้างกลุ่มของตน รวมทั้งเปิดร้านขายเอง ส่งเอง ตรงสู่ผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น

“อนาคตของขายปลีกตัวกลางอย่างยอดเยี่ยมเลอร์ แล้วก็ร้านต่างๆที่ผมเคยเตือนไว้ เริ่มชัดแล้วว่าหน้าที่จุดสำคัญจะเริ่มต่ำลงเรื่อยแล้วก็ปีต่อไปจะเริ่มชัดขึ้นเรื่อยเมื่ออีคอมเมิร์ซเริ่มโตขึ้นเรื่อย”

10.การลดน้อยของธุรกิจขายปลีกเขตแดน (Local Business Decline) เมื่อ 1-9 มารวมกันจะมีการที่ธุรกิจแคว้นที่อยู่บ้านนอก ร้านโชห่วย ร้านรวงขนาดเล็ก อื่นๆอีกมากมาย จะเริ่มมองเห็นการยุบตัวในปี 2565 เพราะว่าผู้ซื้อจะเริ่มเคยชินกับการซื้อของออนไลน์มากเพิ่มขึ้น จะกระทบกับธุรกิจขายปลีกในทันที ไม่ว่าจะเป็นร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า อื่นๆอีกมากมาย ถัดไปจะทำให้เกิดผลกระทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างยิ่งจริงๆ ร้านค้าพวกนี้จะมีขนาดเล็กลง ยอดจำหน่ายจะตกลงด้วยเหมือนกัน

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook