ลงประกาศฟรี
ค้นหาประกาศ

เปิดโรดแมปรุกธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นการต่อยอด “เพลง-หนัง” ปั้นรายได้

ช่อง 3 กางแผนใหญ่ปี 2565 เดินหน้าลดทุน-มุ่งขยายฐานรายได้ เพิ่มจุดโฟกัสขายไลเซนส์คอนเทนต์แพลตฟอร์มไทยเทศ ปรับรายละเอียดรายการข่าวสาร-ละครดึงเรตติ้ง จ่อขึ้นนาทีประชาสัมพันธ์รายการข่าวสาร ข้างหลังทำยอดผู้ชมสูงตลอด ชี้ระยะยาวแตกไลน์ธุรกิจเพลง-ภาพยนตร์ หวังสร้างการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน

เปิดโรดแมปรุกธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นการต่อยอด “เพลง-หนัง” ปั้นรายได้

 

นายพิริยดิส ยกพึ่งอาตม์ รองผู้ตัดสินผู้อำนวยการ สำนักการคลังรวมทั้งบัญชี บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือช่อง 3 เผยออกมาว่า ในปี 2565 ช่อง 3 ยังเดินหน้าสร้างการเจริญเติบโตตลอด ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้สร้างคอนเทนต์แล้วก็เป็นหัวหน้าในตลาดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของเมืองไทย จากเดิมที่วางโพสิชั่นไว้ที่การเป็นหัวหน้าในธุรกิจโทรทัศน์เพียงอย่างเดียว

แล้วก็เพื่อสร้างรายได้ให้ขยายตัวในปีถัดไป ช่อง 3 จะจุดโฟกัสใน 3 เรื่องสำคัญๆอย่างเช่น วิธีการทำ 1 คอนเทนต์หลายแพลตฟอร์ม โดยหันมาให้ความใส่ใจกับวิธีขายไลเซนส์คอนเทนต์ไปสู่เมืองนอก ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์ หรือทางแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอ เช่น เน็ตฟลิกซ์ อ้ายฉีอี้ วีโทรทัศน์ ทั้งยังในโมเดลการจำหน่ายเมื่อถ่ายทอดภายในประเทศจบ (finished product) ตลอดจนการฉายคู่ขนานพร้อมๆกับการออกอากาศภายในประเทศ (simulcast business model)

เดี๋ยวนี้มีการปฏิบัติงานแบบดังที่กล่าวมาแล้วถึง 10-20 ประเทศ เช่น คุณหมีปาฏิหาริย์, หลงใหลฆาตเกม, ยมทูตกับภูตผีสาว ซึ่งมีแพลุกลนกระจายเสียงในปี 2565 โดยการจำหน่ายคอนเทนต์ที่มีอยู่ในมือไปสู่แพลตฟอร์มหรือหนทางใหม่ๆทั้งยังในประเทศรวมทั้งต่างถิ่น เป็นการลดเงินลงทุนไปในตัว แล้วก็เพิ่มรายได้ให้แก่ธุรกิจ นอกเหนือจากการนำคอนเทนต์ละครหรือรายการกลับมารีรันในตอนกำลังซื้อผู้ใช้ลดน้อยลง ดังเช่นว่า ตอนล็อกดาวน์ในไตรมาส 3 ก่อนหน้านี้

เวลาเดียวกัน ช่อง จะมุ่งเพิ่มน้ำหนักไปที่กระบวนการทำแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นของตัวเองเป็นCH3 Plus ภายใต้โมเดลการรับดูวิดีโอแบบมีประชาสัมพันธ์กั้น (AVOD-advertising-base VDO on demand) โดยบริษัทจะได้รายได้จากค่าใช้จ่ายสำหรับโฆษณา แล้วก็ CH3 Plus Premium ในโมเดลการเก็บค่าสมาชิก สล็อตเว็บตรง เพื่อรับดูคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีของช่อง โดยยิ่งไปกว่านั้น (SVOD-subscription-base VDO on demand) ปัจจุบันนี้มีฐานสมาชิกมากขึ้นโดยตลอด แล้วก็เป็นวิถีทางที่มีสมรรถนะสำหรับเพื่อการเติบโตได้สูง

พร้อมกันกับการปรับรูปร่างให้ความใส่ใจกับคอนเทนต์บนจอโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเข้มข้นของคอนเทนต์ข่าวสาร โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีการฟอร์มกลุ่มโฆษกข่าวสารใหม่ตั้งแต่ตอนเช้าเขียนเย็น รายการข่าวสารของช่อง ก็เลยเป็นที่นิยมสูง เป็นต้นว่า โหนกระแส นำโดยชายหนุ่มมือชัย

ยิ่งกว่านั้นการดึง สรยุทธ สุทรรศนะจินดา เข้ามานั่งเป็นที่ปรึกษารายการข่าวสารแล้วก็คนอ่านข่าวรายการกรุ๊ป เรื่องเล่า” ทำให้แนวทางการทำรายได้ในทางนาทีประชาสัมพันธ์มีการปรับพฤติกรรมดียิ่งขึ้นตลอด รายตัวการเรื่องเล่าเช้าวันนี้ และก็เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ มีนาหนประชาสัมพันธ์มากถึง 80-90% นำมาซึ่งการทำให้ในปี 2565 อาจมีการพิเคราะห์ปรับนาทีประชาสัมพันธ์บางรายการข่าวสารอย่างเหมาะควรถัดไป

ตอนที่คอนเทนต์ละครหัวหอกหลักของช่อง ก็ได้มีการปรับรายละเอียดให้มีความน่าดึงดูดใจและก็เป็นแถวใหม่ๆเพื่อยั่วยวนใจผู้ใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ทำให้ภาพรวมเรตติ้งของช่อง โดยทาร์เก็ตหลักกรุ๊ปจังหวัดกรุงเทพ และก็หัวเมืองใหญ่ All 15+ BU ได้ครอบครองลำดับต้นๆ แม้ตรึกตรองเจาะลึกถึงรูปทรงรายได้ เดือน

ในปี 2564 พบว่า ละครมีรูปทรง 57.1% มากขึ้น 1.8% ข่าวสารมีรูปร่าง 26.6% มากขึ้น 55.6% เอ็นเตอร์เทนเมนต์รวมทั้งวาไรตี้มีรูปร่าง 13.3% มากขึ้น 29.21% และก็อื่นๆมีรูปร่าง 2.8% มากขึ้น 122.3% เมื่อเทียบกับตอนเดียวกันของปีที่ผ่านมา

สำหรับแผนระยะยาว ช่อง จะผันตัวเองไปสู่ธุรกิจใหม่ๆโดยนำสิ่งที่มีอยู่ในมือมาต่อยอด โดยยิ่งไปกว่านั้นในด้านการนำนักแสดงและก็ดาราของช่อง มาเพิ่มแวลู ในอนาคตจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจดนตรี ผ่านการดึงดาราออกมาทำเพลงต่างๆกับอีกส่วนเป็นการประสานมือพาร์ตเนอร์ชิปในกรุ๊ปอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ส่งเสริมการผลิตภาพยนตร์ด้วยกัน แล้วก็ใช้ผู้แสดงที่มีชื่อของช่อง มาเป็นนักแสดงนำ ซึ่งเวลานี้ได้เริ่มปฏิบัติการปรึกษาหารือกับคนจัดทำภาพยนตร์ไปแล้วเล็กน้อย

คีย์หลักของช่อง ในปีต่อไปจะมุ่งหน้าเพื่อเข้าสู่นิวคอนเทนต์ นิวมีเดีย รวมทั้งนิวแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างการเจริญเติบโต พร้อมด้วยลดเงินลงทุนในด้านต่างๆเพื่อเมนเทนอยู่ในตลาด ก่อนหน้านี้ได้ปรับนิสัยอย่างมากตลอดคืน ช่องดิจิทัล อาทิเช่น ช่อง 13 รวมทั้งช่อง 28 รวมถึงวิธีขายธุรกิจที่ไม่ได้กำไรอย่างบีอีซีเทโรออกไป นอกเหนือจากนี้ยังมุ่งเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆอย่างเช่น เพลง ภาพยนตร์ เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นายพิริดิสกล่าวถัดไปว่า สำหรับในไตรมาส ก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุการณ์การแพร่ระบาดวัววิดนำมาซึ่งการทำให้มีมาตรการล็อกดาวน์ มีการสั่งปิดห้องอาหาร ห้าง ทำให้ภาคเอกชนมีการฟื้นช้า แล้วก็ทำให้อุตสาหกรรมประชาสัมพันธ์อันเป็นรายได้หลักของบริษัทปรับพฤติกรรมลดน้อยลงเหลือ 24,660 ล้านบาท หรือราว 11.0%

เวลาที่ภาพรวมของบริษัท ทำรายได้รวมอยู่ที่ 1,272.1 ล้านบาท ต่ำลงจากไตรมาสก่อน 15.5% โดยมีกำไรทั้งสิ้นอยู่ที่ 142.9 ล้านบาท เป็นการทำเงินต่อเนื่องกันถึง ไตรมาส รวมทั้งถ้าหากนับกำไรทั้งสิ้นรอบ เดือน ปี 2564 จะมีผลกำไรอยู่ที่ 466.4 ล้านบาท มากขึ้น 196.8% เมื่อเทียบกับตอนเดียวกันในปี 2563 ที่ขาดทุนราว 481.8 ล้านบาท

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook